เนื่องจาก
เมื่อวานนั่งสอนพัดให้อัดกลอง หลังจากให้พัดทำซ้ำไปซ้ำมาสามเซสชั่น พบว่า
พัดจำไม่ได้เลย เราจึงตัดสินใจว่า เขียนให้แม่มอ่านดีกว่า
เริ่มเลย
เริ่มเลย
Audio
Track คือ ช่องสัญญาณเสียงในอุปกรณ์บันทึก
เวลาเราบันทึกสัญญาณเสียงเข้าไปเนี่ย สัญญาณเสียงนั้นๆก็จะถูกบันทึกลงใน
Audio Track ที่ตั้งไว้
ปกติ Audio Track ที่เราสร้างขึ้นใน Pro Tools จะอยู่ในรูปแบบดังภาพต่อไปนี้
แต่
เพื่อให้ง่ายต่อความเข้าใจ ให้ลองคิดว่าส่วนของ I /O (Input / Output)
ถูกแยกเป็นสองส่วน ครึ่งบนซึ่งเป็นส่วนของ Input ย้ายไปอยู่ข้างบน Track
ครึ่งล่างซึ่งเป็นส่วนของ Output ย้ายไปอยู่ด้านล่างสุด

เวลาเราบันทึกเสียง สัญญาณเสียงจาก Input ที่เราตั้งไว้จะถูกบันทึกลงใน Audio Track สัญญาณเสียงที่บันทึกอยู่ใน Audio Track ก็จะถูกประมวลผลตามลูกศรสีแดง
ผ่าน Insert > Send > Pan > Solo > Mute > Fader
แล้วก็ไปออกที่ Output
ยกตัวอย่างเช่น
ยกตัวอย่างเช่น
"เฮ้ย พัด อัดกีต้าร์ให้หน่อย กีต้าร์เข้าที่ Line 1 นะ"
พัด
ก็ต้องไปตั้ง Input ในแทรคที่ต้องการจะบันทึกเสียงให้เป็น Line 1
และเพื่อให้เราสามารถได้ยินเสียงที่เราบันทึกไป ในส่วนของ Output
พัดก็ต้องตั้งให้เป็น Main ซึ่งเป็น Output
หลักในการแสดงเสียงสำหรับกรณีนี้
จริงๆ แล้วเราสามารถ Assign Input หรือ Output ในแต่ละ Audio Track ได้อย่างอิสระ ขึ้นอยู่กับความต้องการของเราในการบันทึกเสียงหรือมิกซ์
จริงๆ แล้วเราสามารถ Assign Input หรือ Output ในแต่ละ Audio Track ได้อย่างอิสระ ขึ้นอยู่กับความต้องการของเราในการบันทึกเสียงหรือมิกซ์
ขั้นตอนการบันทึกเสียงไม่มีอะไรยาก กด Arm Track ซะ
ปุ่มสีแดงที่มีจุดขาวอยู่ตรงกลางใน Audio Track นั่นล่ะ
พอกดไปมันจะกลายเป็นไฟสีแดงกระพริบ เมื่อนั้น Audio Track
ของเราก็พร้อมแล้วที่จะบันทึกเสียง
กดเลข 3 ที่ฝั่ง Numpad บนคีย์บอร์ด เพื่อเริ่มทำการบันทึกเสียงได้เลย
กดเลข 3 ที่ฝั่ง Numpad บนคีย์บอร์ด เพื่อเริ่มทำการบันทึกเสียงได้เลย
แต่ความวุ่นวายของเมื่อวาน จนเป็นที่มาของบทความนี้คือ
พัด
ไม่ได้มีหน้าที่แค่ Arm Track และกดอัด แต่พัดต้องส่ง Backing Track
และเมโทรนอมไปให้ คิท ซึ่งรับหน้าที่เป็นมือกลองในการบันทึกเสียงเมื่อวาน
ให้ทำซ้ำ รอบหนึ่งผ่านไป รอบสองรอบสามผ่านไปสามรอบ พัดก็ยังทำผิด ... ไม่อาจตอบได้ว่าถ้ามีรอบสี่รอบห้าพัดจะสามารถทำได้ถูกหรือไม่
พัดงงเรื่องการ Send และ Aux Input ครับผม !!!
auxiliary
ตามพจนานุกรมแปลอังกฤษ - ไทย NECTEC's Lexitron Dictionary แปลว่า เครื่องสนับสนุน เครื่องช่วย, ผู้ที่ช่วยสนับสนุน, สำรอง, เสริม ซึ่งเป็นองค์ประกอบ, ซึ่งช่วยเหลือ
ใน
ที่นี้ Auxiliary Input หรือที่เรียกอย่างย่อว่า Aux Input ก็คือ Input
เสริมหรือสำรองนั่นเอง ในกรณีปกติเรานิยมใช้ Aux Input
เพื่อรวมสัญญาณเสียงหลายๆแทรคเข้าด้วยกัน
หรือในเป็นช่องสัญญาณสำหรับเอฟเฟ็คต่างๆ เช่น Reverb และ/หรือ Delay
เป็นต้น
แต่
ในกรณีนี้ เราใช้ Aux Input เพื่อส่ง Backing Track
จากคอนโทรลรูมเข้าไปยังสตูดิโอ เวลาเราสร้างแทรคใหม่ขึ้นมาเพื่อเป็น Aux
Input เราจะได้ Track หน้าตาประมาณนี้
เอา
แบบง่ายๆเลยคือ คิดเหมือน Audio Track สัญญาณเสียงเข้ามาทาง Input
และออกไปทาง Output แต่เพราะว่า Aux Input ไม่ใช่ Audio Track ดังนั้น
Track ที่เป็น Aux Input จึงไม่มีสัญญาณเสียงในตัวเอง
ต้องรับสัญญาณเสียงมาจาก Track อื่น
Track อื่นที่กล่าวถึงในที่นี้คือ Audio Track ที่มี Backing Track อยู่ ซึ่งเราจะส่งเข้ามาที่ Aux Input ผ่าน Send
เริ่มด้วยการเลือกทางเดินสัญญาณให้ Aux Input ก่อน จะให้ Input และ Output เป็นอะไร
เมื่อวานเราให้พัดตั้ง Input ของ Aux Input เป็น Bus 1-2 และ Output เป็น B Line 5-6 ซึ่งคือ Output สำหรับส่งไปให้คิทฟังในสตูดิโอ
จริงๆไม่ค่อยอยากอธิบายเรื่อง Bus เท่าไหร่ เนื่องจากยังไม่ค่อยชัวร์เท่าไหร่ แต่เขียนไว้ก่อนตามที่ตัวเองเข้าใจแล้วกัน
Bus
คือช่องทางสำหรับรวมสัญญาณเสียง Bus ที่เราเห็นกันประจำก็คือ Master Bus
หรือ Main Output Bus ถ้าใน Pro Tools มันก็คือ Bus ของ Master Fader
นั่นเอง
ตามความเข้าใจของเรา Aux Input ก็คือ Bus ชนิดหนึ่ง
ใน
Pro Tools เราสามารถสร้าง Bus ขึ้นมาได้มากมาย โดยเข้าไปตั้งค่าที่ I / O
Setting ใน Setup แต่เราจะไม่อธิบายรายละเอียดและวิธีการในบทความนี้
ดัง
นั้น สิ่งที่พัดต้องทำคือ ตั้ง Input ในแทรคที่เป็น Aux Input ในเป็น Bus
1-2 ไม่มีอะไรยาก แค่เพียงคลิ๊กที่ Input Tap ในแทรค Aux Input และเลือก
Bus 1-2 จากเมนู
เซ็ท Input เรียบร้อยก็ไปต่อที่ Output คลิ๊กที่ Output Tab แล้วเลือก B Line 5-6
ทีนี้
ช่องสัญญาณเสริมสำหรับส่งไปให้คิทฟังในสตูดิโอก็พร้อมใช้งานเรียบร้อย
เหลือแค่ส่งสัญญาณเสียงมาจาก Audio Track ที่มี Backing Track อยู่
ค
ลิ๊กใน Tap ที่ว่างอยู่บน Audio Track ใต้หมวด SENDS A-E เลือกส่งไปเข้า
Input ของ Aux Input ที่สร้างไว้ซึ่งก็คือ Bus 1-2 พอเลือกเสร็จ จะปรากฏ
Send Fader ขึ้นมา
อยาก
ให้คิทได้ยินดังแค่ไหนก็ดัน Fader ขึ้นไปเท่านั้น
และที่สำคัญสำหรับกรณีนี้ต้องตั้งค่าให้เป็น Pre-Fader ด้วย
แค่ไปคลิ๊กตรงปุ่มที่เขียนว่า PRE ให้ไฟสีฟ้าติดเหมือนในรูปนั่นล่ะ
ถือเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ทำไมต้องส่งเป็น Pre-Fader และ Pre-Fader คืออะไร
Pre
แปลว่า ก่อน Pre-Fader ในที่นี้หมายถึง ก่อน Fader หลัก
ความดังของสัญญาณเสียงที่ส่งไปให้คิทเมื่ออยู่ในโหมด Pre-Fader
จะไม่ถูกควบคุมต่อด้วย Fader หลักใน Audio Track นั้นๆ คือ
ตราบใดที่เราไม่เข้าไปยุ่งกับ Send Fader ไม่ว่าเราจะขยับ Fader ใน Audio
Track ยังไงมันก็จะไม่ไปรบกวนสุทรียภาพในการฟังของคิทในสตูดิโอ
สรุป
... ในการเซ็ตอัพโปรเจ็คเพื่อบันทึกเสียง สติสำคัญที่สุด
ค่อยๆนึกเรื่องทางเดินสัญญาณ มาจากไหน จะส่งไปที่ไหน
ถ้าทำความเข้าใจได้แล้วในระดับหนึ่ง แม้แต่การส่ง Backing Track
ไปให้คิทฟังแบบในบทความนี้ พัดก็ไม่จำเป็นต้องใช้วิธีส่งผ่าน Aux Input
ตามนี้ก็ได้